Monday, May 30, 2016

ถามตอบ เกี่ยวกับ INTJ (1)

เขียนบล๊อกนี้ ขึ้นมา เพื่อที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นๆเข้าใจใน INTJ หรือ INTJ เข้าใจตัวเองดีขึ้นมานีสส นึง แต่ถ้า INTJ อ่านก็อยากจะบอกว่า คุณไม่ได้แปลกกว่าคนอื่นนะ แค่คุณเป็นส่วนน้อยเท่านั้นเอง มาเริ่มคุยกันเลย
เราเป็นผู้หญิง ที่เป็น INTJ อายุ 30+ จากตารางด้านล่างจะเห็นว่า เราแค่ 0.9% เท่านั้นเอง
82589
The Scientist : นักวิทยาศาสตร์
1.ถาม: คุณเป็นคนรักอิสระที่เข้มแข็ง ผู้ชอบแสวงหามุมมองใหม่ๆ ชื่นชอบการเข้าใจสิ่งใหม่ๆ มีความคิดล้ำลึก และมีความคิดฉับไว แต่คนอื่นๆไม่ค่อยได้มองเห็นความฉับไวนี้ของคุณ เพราะคุณมักจะเก็บงำไว้กับตัวเอง จริงเหรอ?
ตอบ:
  • จากคำถามที่ว่า “คุณเป็นคนรักอิสระที่เข้มแข็ง ผู้ชอบแสวงหามุมมองใหม่ๆ ชื่นชอบการเข้าใจสิ่งใหม่ๆ ?”
คำตอบคือใช่ คือเป็นคนที่รักอิสระ ตั้งแต่จำความได้ ชอบการเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน บางทีก็จะชอบฟังคนพูดเรื่องเดียวกัน โดยผ่านการเล่าเรื่องจากคนละคน มันเป็นเรื่องที่สนุกมาก เพราะเราจะจับความแตกต่างของเรื่องราว และจะเห็นแนวคิดของแต่ละคนด้วย เรื่องนี้เป็นมาตั้งแต่จำความได้ โดยไม่มีใครสอน แต่บังเอิญได้รับโอกาสที่ดี ตั้งแต่เด็กๆ
  • ส่วนคำถามที่ว่า “เป็นคนมีความคิดล้ำลึก และมีความคิดฉับไว แต่คนอื่นๆไม่ค่อยได้มองเห็นความฉับไวนี้ของคุณ เพราะคุณมักจะเก็บงำไว้กับตัวเอง จริงเหรอ?
คำตอบคือ เรื่องความคิดล้ำลึก และเป็นคนคิดเร็ว จับเรื่องนี้ผสมกับประสบการณ์นั้น แล้วอ้างอิงกับปัจจุบันเร็วมาก แต่ไม่สามารถอธิบายใครได้ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก แม้กระทั้งตอนเรียนมหาลัย ดิชั้นเรียนวิศวะฯ เป็นคนที่คิดระบบคำตอบเร็วนะ แต่เกรดเฉลี่ยไม่ดี จนเราก็สงสัย พอดีสนิทกับอาจารย์ เลยขอดูเฉลยที่เป็นข้อสอบของเราเอง สรุปคือ เรามีกระบวนการคิดที่ถูกซะส่วนใหญ่ แต่ที่ผิดคือคำตอบที่บวกลบ คูณหารผิด ทั้งๆที่มีเครื่องคิดเลข ต้องยอมรับว่าไม่รอบคอบและใจร้อนมาก
82588
  1. ถาม: คุณมีปัญหาเรื่องการอธิบายความคิดของตัวเองให้คนอื่นฟังมั้ย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องทำงาน และส่วนตัว ถ้ามีแล้ว แก้ปัญหายังไง?
ตอบ: มีปัญหาเรื่องนี้มากกกกก แต่กุญแจสำคัญคือ เราต้องเข้าใจสิ่งที่อยู่ในหัวของเราก่อน คือมันเยอะมากๆ เราฝึกตัวเองมาตลอด เช่น
  • ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม คือเราเป็น ติวเตอร์ ที่สอนวิชายากๆ เราจะมีขั้นตอนการสอน ที่ฝึกการทำโจทย์เป็นหลัก และอธิบายคนอื่นเป็นขั้นตอน แต่พอเริ่มทำงานก็ไม่ค่อยได้ฝึก ก็เลยจะมีปัญหาบ้าง ต้องแก้เป็นกรณีไป แต่ส่วนใหญ่จะเขียนลงในกระดาษเป็นหลัก
  • แม้เรื่องส่วนตัว เวลาเราทะเลาะกับแฟน (ปัจจุบันเป็นสามี ซึ่งเป็น ISTJ คบกันมา สิบกว่าปี) เราจะอดทนมากๆ แล้วจะมีกระดาษ a4 และปากกามาด้วย แล้วเขียน สถานการณ์ ที่เรากำลังเป็นอยู่ และอธิบาย ว่าที่เราทะเลาะกันมันมีประโยชน์มั้ย คราวหน้าเราจะแก้ปัญหานี้ยังไง ถ้ามันเกิดขึ้นอีก แต่ด้วยแฟนเราเป็น ISTJ เขาก็จะทำเป็นเข้าใจ แค่ช่วงเดียวหล่ะ แล้วก็จะเป็นอีกทะเลาะกันเรื่องเก่า จนเรารู้สึกว่า มันเป็นเรื่องที่เหนื่อยที่ต้องมานั่งอธิบายซ้ำ เลยยอมๆไป
  • ส่วนเรื่องงาน ก็จะมีปัญหาบ้างแล้วแต่เคส คือถ้าในเคสเราเป็นหัวหน้า มันจะง่ายมาก เพราะจะรู้ว่า แต่ละคนมีจุดอ่อนจุดแข็งอะไร พูดอย่างไรถึงเข้าใจ แต่ถ้าเคสเราเป็นลูกน้องจะเป็นเรื่องหายนะ เพราะส่วนตัวจะเป็นคนค่อนข้าง(อธิบายไม่ถูกนะ…) แต่เหมือนถ้าคนเป็นหัวหน้าเราแล้วไม่เก่งหรือวางแผนการทำงานไม่เป็น เราจะไม่เคารพเขาเลยนะ บางทีก็จะทำอะไรขัดกับเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นปัญหามากในสังคมคนเอเชีย ที่ดูที่อาวุโส ไม่ใช่ตัวงาน เราเลยเกลียดงานราชการมาก และไม่ชอบอยู่ในระบบของใคร เท่าไหร่
82586
3.ถาม: คุณเป็นคนช่างคิดวิเคราะห์ และเป็นคนมีมาตรฐานสูงรึเปล่า?
ตอบ: เรื่องการคิดวิเคราะห์ คือใช่เลย เราคิดแบบสร้างสรรค์นะเราจะสนุกกับการคิดมาก ส่วนเรื่องมาตรฐานสูงไม่แน่ใจว่าเป็นมั้ย แต่เราเป็นคนที่ถ้ามีคนมาถามว่าชอบกินอะไรมากที่สุด? ชอบอ่านหนังสือประเภทไหนที่สุด? จะตอบไม่ได้เลยนะ คือเราจะหาคำว่าที่สุดไม่ได้ และยิ่งใครมาถามคำถามว่า เราเก่งชีววิทยามั้ย? ทั้งๆที่สมัยเรียนมัธยม เราได้ 4 รวดทุกเทอม เราก็ว่าเราไม่เก่ง เพราะมีคนเก่งกว่าเยอะมาก เป็นต้น ดังนั้นเราก็ว่าเราเป็นคนมาตรฐานสูง
4: ถาม: คุณเป็นคนมีจิตใจแน่วแน่ และมักจะเชื่อวิสัยทัศน์ของคุณเองโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรรึเปล่า?
ตอบ: คือจริงๆเราไม่สามารถอธิบายตัวเองได้นะ แต่จะบอกคร่าวๆคือ เป็นคนที่ เชื่อในตัวเองก็ต่อเมื่อเราหาเป้าหมายเจอ คือชีวิตเราขาดเป้าหมายไม่ได้ (อันนี้เรื่องจริงจังมาก คือเคยไม่มีเป้าหมาย แล้วชีวิตแย่ไปเป็นคนละคนเลย ) และเมื่อเชื่อแล้ว เราก็จะหาทางศึกษาแบบจริงจังในทุกเส้นทางที่เป็นไปได้ จนกลายเป็น MY VISION ขึ้นมา เมื่อเรามี MY VISION แล้ว เราไม่สนใจ VISION อื่นเลย แต่เราเป็นคนยืดหยุ่นและเปิดกว้างในทุกความคิด แต่เรายึดของเราเป็นฐานเพื่อต่อยอดเสมอ สรุปคือ เราสนใจคนอื่นนะ แต่เราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเราต้องการอะไร แล้วคนอื่นให้อะไรเราได้บ้าง เป็นต้น
82590
5.ถาม: คุณไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเพราะเป็นเรื่องเสียเวลา ยกเว้นแต่ว่าคุณจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง จริงรึเปล่า?
ตอบ: ใช่เลย คือเราไม่ชอบอย่างมากก ตั้งแต่เด็กๆในการทำกิจกรรมสารพัดทางสังคม ทำตัวตลกๆ และการเฮฮา ที่เราเข้าร่วม ส่วนใหญ่เพราะเรามีจุดประสงค์แฝงเสมอ เช่น ไม่อยากให้ใครมองว่าเราเด่น (เพราะเพื่อนหลายคนบอกว่า “ถ้าแกไม่เข้าร่วมหรือทำตัวออกห่าง ทุกคนจะมองแกและหาว่าแกเรียกร้องความสนใจ” อ้าววฟังแล้วแย่กว่าเดิม ) เลยต้องเนียนๆไป แต่ด้วยความที่เป็นคนปรับตัวเร็ว ก็กลายเป็นจุดสนใจไปเอง ไม่รู้เป็นเวรกรรมอะไร จนคนที่เข้าสังคมบ่อยๆอยู่ก่อนแล้วเริ่มหมั่นไส้ และมันจะเป็นแบบนี้มาตลอด จะเกิดปัญหาตามมาเช่น
– จะมีคนพูดมาเข้าหูว่า “มองไม่ออกเลยว่าจริงๆเป็นคนยังไง บางทีก็เงียบขรึม บางทีก็ดุและจิกด่า บางทีก็เฮฮา+ เหน็บแนมเบาๆ บางทีเรื่องเล็กๆก็ร้องไห้(อันนี้มาจากการเก็บกดจากเรื่องอื่น คือที่ร้องไห้แบบเหมือนไม่มีเหตุผล เป็นเพราะมันสะสมหลายเรื่อง ซึ่งบางทีโดนเหยียบเท้ายังร้อง แต่ที่ร้องไม่ใช่เรื่องโดนเหยียบเท้านะ มันมีเรื่องอื่น ที่คล้ายๆกันอยู่ในหัว แต่คนจะไม่รู้และจะคิดกันไปเอง) ”
– หรือไม่ก็มีคนเห็นแวว และจะมอบหมายให้ครั้งหน้ามาทำหน้าที่ ออกสังคมอีก เช่น เป็นคนออกแบบท่าเต้นทีมเชียร์ เป็นผู้ออกแบบและกำกับการแสดงละครโรงเรียน รวมถึงเป็นหัวหน้าห้อง เป็นต้น (อันนี้ตอนมัธยม) แต่พอมหาลัย เราออกแบบตตัวเองให้เป็นคนสบายๆ เหมือนจะไม่ซีเรียสและออกดูเป็นคนไม่ค่อยฉลาดด้วยซ้ำ(มันสนุกที่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆเราเป็นแบบไหน แต่อบ่างน้อยให้เขาเห็นเราแค่เสี้ยวเดียวก็พอ)
82591
POST นี้แค่นี้ก่อน ถ้าสงสัยประการใดเพิ่มเติม หรือ INTJ ด้วยกันอยากระบาย ก็เมล์มาคุยกันได้ที่
songrad.banyen@gmail.com
แล้วเจอกันใหม่
 credit:visionconner.wordpress.com

No comments:

Post a Comment