ในช่วงชีวิต 1 เดือนที่ผ่านมา เราได้เจอรปะสบการณ์หลายๆอย่าง แบบเข้มเข้นในช่วงเวลาเดียวกัน
1. เหตุเนื่องจาก ลูกสาววัย 7 เดือนที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล โดยที่ส่วนตัวแล้วทั้งเราและสามีไม่เคยต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากป่วยมาก่อน และลูกสาวป่วยค่อนข้างหนัก เรากับสามีต้องพาไปโรงพยาบาแต่ดันเป็นโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งค่ารักษาแพงมากก จึงต้องจำใจย้ายลูกออกกลางคันเพื่อไปโรงพยาบาลรัฐบาลและได้คำแนะนำ จากพี่สาวที่เรานับถือ ซึ่งเขาช่วยแนะนำและให้กำลังใจได้เยอะมากๆ และได้รับความช่วยเหลือและความเสียสละจากน้องสาวที่อยู่้เคียงข้าง ครอบครัวเราถึงผ่านมันไปได้ พอลูกสาวเริ่มโอเคขึ้น เราก็กลับเขาทำงาน หลังจากที่ลางานมาหลายวัน
2. เมื่อเข้าไปทำงานแต่กลับเป็นว่า โดนเพื่อนร่วมงานรุมนินทาและวิจารณเกี่ยวกับการให้นมแม่ที่เราให้กับลูกซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่แม่อย่างเราจะเสียสละเวลาและคำครหานินทาจนต้องแอบปั้มนมเพื่อเลี้ยงลูกและสาเหตุที่ลูกเราป่วย และบังเอิญเราไปได้ยินเข้า ทำให้เกิดเรื่องใหญ่โต
3. หลังจากที่ลูกเราโอเค ก็มีปัญหาล่าสุดทีที่ทำงาน เรื่องหัวหน้าแผนกบัญชี มาวุ่นวายกับเราเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือน ซึ่งเราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะถือว่าบริษัทให้เราเยอะแล้ว และบริษัทเองก็มีบุญคุณกับเรามากมาย แต่พี่คนนั้นเอาเราไปอ้างว่าเราทำงานมาตั้งนานเงินไม่ขึ้น เพราะตัวเขาเองต้องการจะขึ้นเงินเดือน เราอยู่ในสถานการณ์ตกที่นั่งลำบาก เพราะอาจทำให้คนที่เขาดีกับเราเข้าใจเราผิดได้ เราโกรธเขามาก แต่พวกเจ้ๆ เขาเข้าใจเราเป็นอย่างดี (เขาว่างั้น)
เราเลยต้องมานั่งตั้งสติให้ตัวเองใหม่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเราแล้วเราจะทำตัวอย่างไร โดยพยายามมองตัวเองให้เป็นกลางที่สุด
โดยรวมๆแล้วเหมือนว่าเราอยู่นิ่งๆแล้วมีคนเอาปัญหามาให้เราเอง
เราวิเคราะห์ว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเรามันสามารถมีได้หลายอย่าง สมมุติว่าชีวิตเหมือนเส้นทางเส้นหนึ่ง แน่นอนวา่ปัญหามีอยู่ทุกที่ มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเป็นตัวๆจับต้องได้ ทั้งเป็นความรู้สึก ทั้งเป็นความเจ็บปวดต่างๆ ซึ่ง
1. บางทีเราเป็นตัวปัญหาเอง
2. บางทีเราเดินปกติบนเส้นทางของเรานี่แหล่ะ แต่ปัญหามันอยู่ในทางที่เราเดินพอดี โดนมีทางเดียวคือเราต้องฟันฝ่าเพื่อจะเดินต่อไปได้
3. บางทีปัญหาก็เป็นเหมือนพายุระหว่างทางซึ่งเราก็เดินปกติ ท้องฟ้าสดใส ซักพัก พายุก็พัดเอาปัญหามากระทบเราซะงั้น
หวังว่าเราจะผ่านมันไปได้ด้วยดี และเดินต่อไป
No comments:
Post a Comment